SEasyCash คืออะไร?
SEasyCash เป็นสินเชื่อเงินสดที่ช่วยให้ลูกค้า Shopee สามารถเข้าถึงวงเงินสูงได้ภายในเวลาอันสั้น อีกทั้งยังไม่ต้องมีการขอหลักประกันใดๆ เพื่อเพิ่มสิทธิในการเข้าถึงสินเชื่อให้มากขึ้น
*ผู้ใช้สามารถสมัคร SEasyCash ได้ตามขั้นตอนด้านล่าง ทั้งนี้ผู้ที่มีสิทธิ์สมัครจะต้องเป็นผู้ที่เข้าเงื่อนไขตามนโยบายของบริษัทเท่านั้น
ข้อกำหนดและเงื่อนไขการใช้งาน SEasyCash
คำถามทั่วไป
Q: จำนวนขั้นต่ำในการขอสินเชื่อเท่าไร?
A: ขั้นต่ำในการขอสินเชื่อต่อครั้งคือ 500 บาท
Q: ระยะเวลาการกู้ยืม
A: ลูกค้าสามารถเลือกผ่อนชำระ ตามนโยบายของบริษัทและประกาศของธนาคารแห่งประเทศไทย ดังนี้:
Q: เมื่อขอสินเชื่อเเล้ว สินเชื่อจะถูกโอนไปที่ไหน?
A: กระเป๋าเงิน ShopeePay (ShopeePay Wallet)
Q: เงินจะโอนเข้ากระเป๋าเงิน ShopeePay เมื่อไร?
A: ภายใน 24 ชั่วโมง
Q: กระเป๋าเงิน ShopeePay Wallet สามารถเก็บเงินได้มากสุดกี่บาท?
A: 800,000 บาท ดังนั้นจำนวนสินเชื่อที่ลูกค้าขอกับจำนวนเงินที่มีอยู่ในกระเป๋าเงิน ShopeePay รวมกันจะไม่สามารถเกิน 800,000 บาท หากเกิน ลูกค้าจะไม่สามารถขอสินเชื่อได้
Q: ฉันสามารถถอนเงินจากกระเป๋าเงิน ShopeePay ได้ผ่านช่องทางไหนได้บ้างและได้กี่บาท?
A:
1. ผ่านบัญชีที่ผูกไว้กับ Shopee - 50,000 บาท
2. ผ่านบัญชีธนาคารเพื่อใช้จ่าย (ShopeePay Giro) - 500,000 บาท
Q: กระบวนการเปิดใช้งาน SEasyCash ใช้เวลานานเท่าไร?
A: ระบบจะใช้เวลาในการอนุมัติวงเงินไม่เกิน 1 วัน
Q : ผลิตภัณฑ์นี้มีอัตราดอกเบี้ย ค่าบริการต่างๆ และค่าปรับอะไรบ้าง
A : สำหรับ SEasyCash ภายใต้สินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับ (“SEasyCash”)
อัตราดอกเบี้ย: ไม่เกิน 25% ต่อปี (คิดอัตราดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก)
ค่าอากรแสตมป์: 0.05% ของวงเงินที่ได้รับอนุมัติ*
A : สำหรับ SEasyCash ภายใต้สินเชื่อรายย่อย เพื่อการประกอบอาชีพภายใต้การกำกับ (“SEasyCash นาโน”)
อัตราดอกเบี้ย: ไม่เกิน 33% ต่อปี (คิดอัตราดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก)
ค่าอากรแสตมป์: 0.05% ของวงเงินที่ได้รับอนุมัติ*
ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ ที่นี่
⚠️หมายเหตุ
โดยค่าอากรแสตมป์จะถูกเรียกเก็บรวมกับยอดชำระเงินคืนงวดแรก
ค่าติดตามทวงถามหนี้จะเรียกเก็บต่อเมื่อมียอดหนี้ค้างชำระหรือหนี้ที่ถึงกำหนดชำระสะสมตั้งแต่ 1,000 บาท
Q: ฉันสามารถเลือกวันที่ตัดรอบบิลและวันที่จ่ายบิล SEasyCash ได้ไหม?
A: ไม่ได้ ทุกผู้ใช้บริการจะถูกกำหนดวันที่ตัดบิลทุกๆ วันที่ 25 หรือ 21 ของเดือน และกำหนดวันที่ชำระทุกวันที่ 5 หรือ 1 ของทุกเดือน
Q: ดอกเบี้ยคืออะไร และคิดอย่างไร?
A : ดอกเบี้ย คือ ค่าธรรมเนียมในการใช้วงเงิน SEasyCash โดยการคิดดอกเบี้ยจะเริ่มตั้งเเต่วันที่ลูกค้าขอเบิกเงินจาก ShopeePay Wallet
สำหรับ SEasyCash ภายใต้สินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับ อัตราดอกเบี้ยสูงสุดจะอยู่ที่ 25% ต่อปี (คิดอัตราดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก)
สำหรับ SEasyCash ภายใต้สินเชื่อรายย่อย เพื่อการประกอบอาชีพภายใต้การกำกับ (“SEasyCash นาโน”) อัตราดอกเบี้ยสูงสุดจะอยู่ที่ 33% ต่อปี (คิดอัตราดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก)
Q: Stamp Duty หรือ อากรแสตมป์ คืออะไร?
A : คือค่าใช้จ่ายให้แก่หน่วยงานราชการ ซึ่งคิดในอัตราร้อยละ 0.05 ของยอดวงเงินกู้ยืมที่ลูกค้าได้รับ โดยอากรแสตมป์สำหรับ SEasyCash ภายใต้สินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับจะเรียกเก็บเพียงครั้งเดียว
Q: หากทำรายการเบิกถอนสินเชื่อและได้รับเงินเข้าบัญชี ShopeePay แล้ว แต่ไม่ได้กดเงินออกมาใช้ จะต้องเสียดอกเบี้ยหรือค่าธรรมเนียมใดๆ หรือไม่
A: (คุณจะต้องเสียดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมตามสัดส่วนของจำนวนเงินที่คุณได้ตกลงในการขอสินเชื่อ SEasyCash) เมื่อผู้ใช้งานได้รับเงินสินเชื่อเข้าบัญชี ShopeePay เรียบร้อยแล้ว นั่นหมายถึงคำขอกู้สินเชื่อจะมีสถานะเสร็จสมบูรณ์ และจะต้องชำระค่าบริการต่างๆตามเงื่อนไขปกติ
ShopeePay wallet เป็นเพียงช่องทางการรับเงินที่ได้รับการอนุมัติกู้ยืมจากสินเชื่อ SEasyCash หรือเป็นเพียงช่องทางการรับเงินหลังจากที่ผู้ใช้งานกดทำรายการถอนเงินในแอปพลิเคชัน Shopee เท่านั้น
ฉันสามารถชำระบิลของ SEasyCash ผ่านช่องทางใดได้บ้าง?
1. ชำระผ่าน ShopeePay Wallet
3. ชำระผ่าน ATM
5. การตั้งชำระ SEasyCash ผ่านระบบอัตโนมัติ (หรือ Auto Repayment)
Q: กระบวนการชำระเงินให้ SEasyCash ใช้เวลานานเท่าใด?
A: ทันทีหลังจากที่ชำระเงินสำเร็จ หากยังไม่ขึ้นว่าชำระเเล้ว กรุณาตรวจสอบอีกครั้ง 24 ชั่วโมงหลังชำระเงิน หากเกิน 24 ชั่วโมงแล้วการชำระเงินยังไม่สำเร็จ สามารถแจ้งรายละเอียดผ่านแบบฟอร์มฝ่ายบริการลูกค้าสัมพันธ์ของ SEasyCash โดย คลิกที่นี่
Q: จะเกิดอะไรขึ้นถ้าฉันชำระหนี้ SEasyCash ช้ากว่ากำหนด?
A: สำหรับ SEasyCash ภายใต้สินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับ (“SEasyCash”)
เมื่อลูกค้าผิดนัดชำระหนี้* จะคิดค่าใช้จ่ายในการติดตามทวงถามหนี้ค้างชำระ
*เรียกเก็บเมื่อลูกค้ามีหนี้ค้างชำระหรือมีหนี้ที่ถึงกำหนดชำระสะสมมากกว่าเกณฑ์ที่กำหนดในประกาศคณะกรรมการกำกับการทวงถามหนี้ โดยยอดค้างชำระรวมมากกว่าหนึ่งพันบาท
วงเงิน SEasyCash ของลูกค้าจะถูกระงับชั่วคราวเมื่อค้างชำระเกิน 3 วัน และไม่สามารถขอสินเชื่อเพิ่มเติมได้จนกว่าลูกค้าจะชำระหนี้คงค้างทั้งหมด
Q: กรณีที่ต้องการจะชำระหนี้ทั้งหมดก่อนครบกำหนดชำระ จะมีค่าปรับไหม?
A: ไม่มี
Q: เมื่อถึงวันที่ต้องชำระเงินสามารถดูใบเเจ้งยอดได้ตามนี้
A:
1. เข้าหน้า SEasyCash แล้วคลิกที่ “ประวัติการขอสินเชื่อ”
2. สามารถเห็นรอบที่ต้องชำระในบิลรอบปัจจุบันและรอบถัดๆ ไป รวมถึงยอดที่เคยชำระไปเเล้วด้วย
3. กดเข้าไปในบิลเเต่ละเดือนเพื่อดูรายละเอียดเพิ่มเติม
Q: ฉันจะทำอย่างไร เมื่อชำระเงินเเล้ว แต่ยังได้รับสายทวงหนี้อยู่?
A: หากคุณได้ชำระยอดค้างชำระทั้งหมดเเล้วเเต่ยังได้รับสายอยู่ กรุณาติดต่อสอบถามฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์ได้ผ่านแบบฟอร์มฝ่ายบริการลูกค้าสัมพันธ์ของ SEasyCash โดย คลิกที่นี่
Q: ฉันจะทำอย่างไรหากเลือกช่องทางการชำระเงินผิด โดยโอนเงินเข้าบัญชีการสั่งซื้อสินค้าตามปกติ
A: สามารถติดต่อผ่านแบบฟอร์มฝ่ายบริการลูกค้าสัมพันธ์โดย คลิกที่นี่ พร้อมส่งหลักฐานสลิปโอนเงินเพื่อดำเนินการขอเงินคืนเข้า ShopeePay Wallet หลังจากนั้นสามารถทำการชำระผ่าน ShopeePay Wallet ได้เมื่อได้รับเงินคืน
Q: ฉันต้องการชำระบิล SEasyCash แต่ได้ทำการลบบัญชีไปแล้ว ต้องทำการแก้ไขอย่างไร?
A: สามารถติดต่อสอบถามฝ่ายบริการลูกค้าสัมพันธ์ได้ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อทำการกู้คืนบัญชี Shopee
Q: ฉันจะทำอย่างไรหากไม่สามารถทำรายการชำระเงินคืนสินเชื่อได้ แล้วระบบแจ้งว่าทำรายการเกินจำนวนครั้งที่กำหนดหรือหน้าจอทำรายการเป็นสีเทา
A: คุณต้องทำการตั้งค่าปรับเพิ่มวงเงินในแอปพลิเคชัน ShopeePay
1. คลิกที่แท็บของ “Me”
2. เลือก “ความปลอดภัยของบัญชี”
3. เลือกตั้งค่าวงเงินจำกัดรายวันให้มากกว่ารายการที่ต้องการชำระด้วย ShopeePay (สูงสุด 699,999 บาท)
Q: ฉันสามารถขอใบวางบิลเป็นสำเนาตัวจริงได้หรือไม่?
A: ได้ สามารถดาวโหลดรายละเอียดได้จากเมนู SEasyCash และไปที่ การตั้งค่า เลือก ใบแจ้งยอดรายการ
Q: ฉันจะสามารถดูรายการบิลย้อนหลังได้หรือไม่ผ่านช่องทางใด?
A: ได้ ผ่านเมนู SEasyCash และเลือก ประวัติการชำระเงินคืน